เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องเก่าสมัยโบราณ ไม่น่าจะเกี่ยวกับการทำงานสักเท่าไร แต่ทำไม่เมื่อสมัยก่อน บางบริษัทจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์การรับคนเอาไว้เลยว่า จะต้องไม่มีรอยสักตามตัวพนักงาน มีสาเหตุมาจากเรื่องอะไรกันแน่ ความเชื่อในเรื่องเหล่านี้ พอมาถึงยุคปัจจุบัน จะต้องปรับเปลี่ยนได้หรือไม่ เพื่อที่จะได้ให้สิทธ์พนักงาน ที่มีรอยสักได้มาทำงานอย่างทัดเทียมกับผู้อื่นได้ จากประสบการณ์ของ

ผู้เขียนเคยทำงานโรงงาน ก็เลยอยากจะมาแชร์ให้ผู้อ่านได้มองประเด็นในเรื่องนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณารับพนักงานที่มีรอยสัก ไว้เป็นแนวคิด ประกอบการพิจารณาไว้

มีโรงงานแห่งหนึ่งที่เริ่มก่อตั้งโรงงานใหม่ จะทำพิธีบวงสรวง ศาลเจ้าที่ ศาลพระพรหม ที่บริเวณหน้าโรงงานของบริษัท   เมื่อถึงเวลาที่จะมีการทำพิธีบวงสรวง ทางบริษัทก็จะทำการเชิญ หัวหน้า ผู้จัดการ และผู้บริหาร ของบริษัทเข้ามาร่วมพิธี ในการบวงสรวง ในวันดังกล่าว ในประมาณเวลา 9.09 นาที ตามเวลาที่ทางพราหมณ์ เป็นผู้กำหนด เมื่อถึงเวลา ก็จะมีพนักงานระดับหัวหน้าและผู้จัดการ มาร่วมงานประมาณ 40 คน พอได้เวลากรรมการผู้จัดการ ในฐานะประธานในพิธีจะเป็นผู้จุดธูปเทียน เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ในขณะนั้นเอง มีพนักงานระดับหัวหน้าท่านหนึ่ง เกิดล้มลงดิ้นตรงบริเวณหน้าศาล ที่ทางผู้บริหารกำลังทำพิธีทางศาสนา   พนักงาน

ดังกล่าว ได้มีปฏิกิริยา เหมือนกับอะไรเข้าร่างของเขา และได้พูดขึ้นว่า ขณะนี้ตัวเขาเป็นผู้วิเศษ มีฤาษีตนหนึ่งอยู่ในร่างทรงของเขา แล้วสั่งให้กรรมการผู้จัดการ ที่กำลังทำพิธีอยู่ ให้มาทำความเคารพ กราบไหว้ตนเอง ในเวลาดังกล่าวมีผู้หลัก ผู้ใหญ่จากบริษัทอื่นมาร่วมพิธีด้วย ก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด   ซึ่งทางกรรมการผู้จัดการได้ประสบเหตุการณ์ที่ไม่ได้มีการวางแผนกันมาก่อน จึงทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนดูพฤติกรรมพนักงานที่เป็นร่างทรงของฤาษี ว่าจะมาแบบไหนกันแน่         เหตุการณ์ยังไม่จบแค่นั้น เมื่อกรรมการผู้จัดการไม่ได้ดำเนินการอย่างไรต่อ ทางร่างทรงก็ได้ชี้หน้าด่า ทางผู้บริหารองค์กรทั้งหมด แล้วพูดขึ้นว่า ถ้าไม่เข้ามากราบไหว้ และรับคำชี้แนะล่ะก็ โรงงานแห่งนี้จะมีปัญหา ผู้บริหารบริษัท จะมีอันเป็นไปภายใน 7 วัน   เมื่อร่างทรงประกาศไปเช่นนั้น ทางผู้บริหารเกิดความลังเล และตกลงร่วมกันว่า จะเข้าไปกราบไหว้ร่างทรงดังกล่าว และขอรับคำชี้แนะ   เมื่อดำเนินการ ตามที่ร่างทรงเสนอเสร็จแล้ว   ประมาณสัก 5 นาที ร่างทรงก็ดิ้นกับพื้นอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็นอนแน่นิ่งไป   สักพักหนึ่งร่างทรงที่เป็นพนักงานระดับหัวหน้างาน ก็ตื่นฟื้นขึ้นมาแบบงง ๆ     ทุกคนที่มาร่วมพิธีก็เข้ามาสอบถามกับพนักงานที่มีฤาษีเข้าร่างดังกล่าว ด้วยความสนใจ แต่พนักงานก็ตอบว่าไม่รู้เรื่องตัวเองที่เป็นแบบนี้ แต่ร่างพนักงานมีรอยสักยันต์ ตามตัวเต็มไปหมด ก็เลยไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้น อาจจะมาจากสิ่งที่เป็นรอยสักหรือไม่ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากทราบ และรู้คำตอบ

สำหรับผู้บริหารองค์กร ที่ร่วมทำพิธีก็เกิดอาการวิตกไม่หายที่ เกิดลักษณะเช่นนี้ขึ้น   แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ ข่าวลืมไปในทางที่ไม่ดีในโรงงาน เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปสักระยะหนึ่ง ซึ่งพนักงานในโรงงานก็พูดถึง พนักงานที่เป็นระดับหัวหน้าว่า   สั่งให้ผู้บริหารองค์กรทั้งหมดให้มาทำความเคารพกราบไหว้พนักงาน ที่เป็นระดับตำแหน่งที่ต่ำกว่าได้ สุดยอดจริงๆ   สิ่งนี้แหละที่ทำให้ภาพพจน์ของผู้บริหารถูกมองไปในทางที่ไม่ดี  ผู้เขียนจึงมองว่า การที่ผู้บริหารเมื่อสมัยก่อนไม่ค่อยกล้ารับพนักงานที่มีรอยสักยันต์ ก็น่าจะมีเหตุผลในลักษณะนี้   เพราะว่าการสักยันต์จะมีการลงเวทย์มนต์ และมีคาถาอาคม ลงไปด้วย ก็จะทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน หรือมีปัญหาในการปกครองได้เช่นกัน   นั่นคือภาพมุมมองเมื่อสมัยก่อน แต่พอมายุคปัจจุบัน ก็ยังมีบ้างที่บางบริษัทยังยึดถือปฏิบัติในการที่จะปฏิเสธในการรับพนักงานดังกล่าวเข้าสู่องค์กรอยู่เหมือนกัน

 

ผู้เขียน   ดร.กฤติน   กุลเพ็ง      ประสบการณ์ 25 ปี ทางการบริหารทรัพยากรมนุษย์และพัฒนาองค์กร เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารทรัพยากรมนุษย์สมัยใหม่ บริหารวัฒนธรรมองค์กร และ การ Implement Competency Model ให้กับองค์กรภาครัฐและเอกชน เป็นอาจารย์พิเศษ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตบางแสน