การบริหารองค์กรที่ได้มาตรฐาน  โดยเฉพาะองค์กรที่เกิดมานานๆ  พนักงานย่อมมีอายุเพิ่มขึ้นไปตามบริษัท ไปด้วย  ฉะนั้นการวางแผนสืบทอดตำแหน่งของพนักงานที่จะต้องเกษียณอายุงาน  จึงมีความจำเป็น  เพราะว่าองค์กรต้องมีพนักงานที่ปฏิบัติงานสืบทอดในตำแหน่งดังกล่าว  ซึ่งบริษัทจึงได้มีการวางระบบการประเมินพนักงานที่จะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งงาน ที่พนักงานจะมีการเกษียณอายุงาน  โดยใช้แบบการประเมินผลการปฏิบัติงานและการประเมินศักยภาพ  มาเป็นเครื่องมือในการวัดว่าพนักงานที่เข้าข่ายจะมาดำรงตำแหน่ง ว่าเป็นบุคคลใดบ้าง  โดยจะมีการขึ้นบัญชีไว้ประมาณ  3  คน  เพื่อที่จะได้ให้บริษัท  มีการวางแผนในการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานที่ได้รับการคัดเลือกไว้  ที่จะให้ดำรงตำแหน่งสืบทอดต่อจากพนักงานที่เกษียณ  นั่นคือขั้นตอนการสรรหาคัดเลือกพนักงานที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งมาเป็น  ผู้สืบทอดตำแหน่ง

กรณีที่บริษัท  มีระบบการสื่อการภายในองค์กรไม่ดีพอ  หรือบางเรื่องไม่ควรจะบอกพนักงานไปทุกเรื่อง  ซึ่งจะกระทบกระเทือนต่อการดำรงอยู่ของพนักงานที่อยู่ในแคนดิเดตร่วมในการสืบทอดตำแหน่ง  ในอนาคต   ผู้บริหารองค์กรจึงต้องมีความตระหนักในเรื่องนี้  เป็นอย่างดี  เพราะว่า  โดยส่วนใหญ่ผู้บริหารองค์กรไปสนใจ แต่เรื่อง ระบบการสรรหาคัดเลือก พนักงานเข้ามาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง  แต่ไม่ได้สนใจ เรื่อง การรักคนที่เป็นผู้แคนดิเดตร่วม  ในการสืบทอดตำแหน่ง  จนเมื่อพนักงานที่ดำรงตำแหน่งตัวจริงได้เกษียณอายุ  ออกไปจากองค์กร  บริษัทจะดำเนินการแต่งตั้งพนักงานที่สืบทอดตำแหน่งลำดับที่  1  ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง

succession-jpg

ตามแผนภูมิด้านบน  จะเห็นได้ว่าบริษัทจะสรรหาคัดเลือกพนักงาน  มาดำรงตำแหน่ง  กรณีที่พนักงานจะเกษียณอายุ  โดยการเรียงลำดับพนักงานที่มีความรู้  ความสามารถ และมีความพร้อมในการก้าวมาสู่ตำแหน่ง   บางองค์กรไม่ค่อยมีความระมัดระวังในเรื่อง  การรักษาความลับ หรือไปให้ความหวังพนักงานที่อยู่ในสายงานของตนเอง  เพื่อหวังที่จะให้พนักงานมีความจงรักภักดีต่อบริษัทและมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน หรือปฏิบัติงานให้กับตนเองมากขึ้นกว่าเดิม  โดยลืมไปว่า  การดำรงตำแหน่งของพนักงานตามความเป็นจริงแล้ว  สำหรับพนักงานที่อยู่ในตำแหน่งลำดับที่ 1   ถ้าผลการปฏิบัติงาน และการประเมินศักยภาพในโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการคัดเลือก  ผู้บริหารสูงสุด  อาจจะพิจารณาคัดเลือกพนักงานที่เป็นลำดับที่ 2  ขึ้นมาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งก็ได้   เพราะเหตุผลเพราะที่ว่า  สถานการณ์ของประเทศและเศรษฐกิจในขณะนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไป  ถ้าให้พนักงานที่แคนดิเดตลำดับที่  1  ดำรงตำแหน่ง  จะเป็นจุดอ่อนของตำแหน่งดังกล่าวได้  นั่นคือเหตุผลของผู้บริหารองค์กร  ที่มององค์กรในภาพรวมและมองถึงบริษัทในอนาคตว่าจะไปรอดหรือไม่   แต่การดำเนินการของระบบได้มีการแจ้งพนักงานที่เป็นแคนดิเดตลำดับที่  1  ไปเรียบร้อยแล้ว มีการส่งพนักงานไปเข้ารับการอบรม เพื่อเตรียมความพร้อม  พนักงานก็รับทราบว่า  เขาจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งนี้อย่างแน่นอน  เมื่อถึงเวลาประกาศของบริษัทออกมา  กลับไม่ใช่พนักงานที่เป็นแคนดิเดตลำดับที่ 1    ผู้อ่านลองคิดดูว่า  อะไรจะเกิดขึ้นกับพนักงานที่ได้รับผลกระทบตรงนี้บ้าง   บางบริษัทต้องเสียพนักงานที่เป็นคนเก่ง และเป็นพนักงานที่บุกเบิกองค์กรมาตั้งแต่เริ่มแรก  นี่แหละคือผลเสียของการได้มาของ ผู้สืบทอดตำแหน่งงาน  ที่มีระบบการสรรหาคัดเลือกที่ดี  แต่ลืมคิดเรื่องระบบการรักษาพนักงานที่เป็น ผู้แคนดิเดต  ในการสืบทอดตำแหน่งไว้ด้วย  จึงทำให้บริษัทได้สูญเสียพนักงานที่เป็นคนเก่งของบริษัทโดยไม่ได้ตั้งใจ

ผู้บริหารองค์กรควรวางแผนที่จะรับมือกับเรื่องลักษณะนี้ไว้  เพราะอีกไม่นาน  บริษัทจะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้อีกในไม่ช้า  ซึ่งปัญหาที่เกิดในลักษณะนี้ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ยากแต่อย่างใด  เพียงแต่มีความเข้าใจถึงปัญหาของพนักงานอย่างแท้จริงแล้วก็จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยไม่ยากเย็นนัก เพราะสิ่งที่บริษัทมักจะประสบปัญหาในตอนสุดท้าย  เพราะว่าคิดว่าระบบขององค์กรเราดีแล้ว  ไม่ต้องปรับอะไร  แต่ถ้าผู้บริหารมีความใส่ใจพนักงาน  มีการหารือ พูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา  ด้วยความจริงใจ  เชื่อได้ว่าปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น และอีกส่วนหนึ่งข้อมูลการวางแผนสืบทอดตำแหน่ง ขององค์กร  ถ้าระดับผู้จัดการไม่มีความเป็นผู้ใหญ่พอ  ไม่ควรให้ข้อมูลเหล่านี้ทราบทั้งหมด  ให้ทราบเฉพาะเรื่องจะดีกว่า  จะได้ไม่นำข้อมูลดังกล่าวไปสร้างบารมีในทางที่ไม่ถูกต้องมากเกิน